ทัศนคติของประชาชนที่มีต่อประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การตรวจและรับคำปรึกษาทางเลือกในการยุติการตั้งครรภ์ ตามมาตรา 305 (5) แห่งประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. 2564

Authors

  • Phoomsak Phattharatrakunkit Graduate School of Political Science, Siam University

Keywords:

การกล่อมเกลาทางสังคม, การยุติการตั้งครรภ์, ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

Abstract

บทคัดย่อ          

          บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อเปรียบเทียบปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ เพศ อายุ และ ศาสนา รายได้ กับทัศนคติของประชาชนที่มีต่อประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การตรวจและรับคำปรึกษาทางเลือกในการยุติการตั้งครรภ์ ตามมาตรา 305 (5) แห่งประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. 2564  2) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการกล่อมเกลาทางสังคมกับทัศนคติของประชาชนที่มีต่อประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การตรวจและรับคำปรึกษาทางเลือกในการยุติการตั้งครรภ์ ตามมาตรา 305 (5) แห่งประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. 2564 และ 3)เพื่อเสนอแนะแนวทางการสร้างการยอมรับต่อประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การตรวจและรับคำปรึกษาทางเลือกในการยุติการตั้งครรภ์ ตามมาตรา 305 (5) แห่งประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. 2564 ซึ่งเป็นวิจัยเชิงปริมาณ และใช้แบบสอบถาม เป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล โดยมีกลุ่มผู้ให้ข้อมูลคือประชาชนที่อาศัยอยู่ใน อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี อายุ 15 ปีขึ้นไป จำนวน 384 คน สถิติที่ใช้ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน

          ผลการศึกษาพบว่า 1) ปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ เพศ อายุ อาชีพ ศาสนา แตกต่างกัน มีผลต่อทัศนคติของประชาชนที่มีต่อประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การตรวจและรับคำปรึกษาทางเลือกในการยุติการตั้งครรภ์ ตามมาตรา 305 (5) แห่งประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. 2564 แตกต่างกัน ส่วนปัจจัยส่วนบุคคลด้าน รายได้และอาชีพที่แตกต่างกัน มีทัศนคติที่ไม่แตกต่างกัน   2) ปัจจัยการกล่อมเกลาทางสังคม มีความสัมพันธ์กับทัศนคติของประชาชนที่มีต่อประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การตรวจและรับคำปรึกษาทางเลือกในการยุติการตั้งครรภ์ ตามมาตรา 305 (5) แห่งประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. 2564 แตกต่างกัน  3) ข้อเสนอแนะจากงานวิจัย ได้แก่ การประกาศใช้กฎหมายควรสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนผ่านสื่อต่างๆให้มากที่สุดเพื่อปรับความเข้าใจ และภาครัฐควรแสดงบทบาท  กำชับ และแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุก่อนการใช้กฎหมายอย่างเต็มความสามารถ

 

Abstract   

          The objectives of this quantitative study were 1) to compare personal factors: gender, age, occupation, religion, and income with people's attitudes towards the Ministry of Public Health announcement on examining and counseling for terminating pregnancy options according to Section 305 (5) of Criminal Code B.E. 2564; 2) to investigate the relationship between socialization and people's attitude towards the Ministry of Public Health announcement on examining and counseling for terminating pregnancy options; and 3) to present guidelines for creating acceptance for the Ministry of Public Health announcement on examining and counseling for terminating pregnancy options according to Section 305 (5) of the Criminal Code B.E. 2564. The research instrument was questionnaires. The 384 participants consisted of persons, aged 15 years and over, living in Mueang district, Chanthaburi province. The data were analyzed by using frequency, percentage, mean, standard deviation, and Pearson's correlation.

          The results were as follows :

          1) Different personal factors, consisting of gender, age, and religion, affected people's different attitudes towards the announcement of the Ministry of Public Health on examining and counseling for terminating pregnancy options according to Section 305 (5) of the Criminal Code B.E. 2564, while 2 personal factors, different income and occupation, did not influence people's attitude.

          2) Factors associated with socialization had a relationship with people's different attitudes towards the announcement of the Ministry of Public Health on examining and counseling for terminating pregnancy options according to Section 305 (5) of the Criminal Code B.E. 2564. 

          3) Research suggestions were as follows. In terms of the promulgation of laws, individuals could be given the right understanding through various forms of media. Before enacting legislation, the government should focus on and deal with the root causes of problems

 

References

เกียรติขจร วัจนะสวัสดิ์. (2564). ประเด็นปัญหาข้อกฎหมาย“ความผิดฐานทาให้แท้งลูก”ตาม ป.อ.มาตรา 301 และมาตรา 305 (แก้ไขเพิ่มเติม 2564). เรียกใช้เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2566 จาก https://drive.google.com/file/d/1a6v5ZyUwAAWJnMzxMpHUEWJjT6SbrpV1/view?fbclid=IwAR0rY_JB_lN96zozmObRzzz6H35BFQMzYF1ZwJ60WG9JIoT7rxbhyKhsufE_aem_ATr-_QDC3-8H6-D71DAepS5kgXsDAp9zTAGXLqzDqUqINBtDwoNNxx7M4PFH_km4IG8.

ชาญชัย จิตรเหล่าอาพร. (2552). การทำวิจัยทางรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์. กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยรังสิต

จิดาภา สันประเทียบ. (2562). ทัศนคติของประชาชนที่มีผลต่อการใช้พืชเศรษฐกิจ “กัญชา” ในการรักษาโรคมะเร็ง ในเขตพื้นที่จังหวัดสระแก้ว. เรียกใช้เมื่อ 18 กุมภาพันธ์ 2567 จาก http://www.ba-abstract.ru.ac.th/AbstractPdf/2562-5-10_1599043433.pdf.

ดนัย จันทร์เจ้าฉาย. (2564). 5 เคล็ดลับทการสื่อสารในภาวะวิกฤต รับมือโควิดรอบใหม่. เรียกใช้เมื่อ 26 กุมพาพันธ์ 2567 จาก www.pptvhd36.com/news/สุขภาพ/146090.

พงษ์เมธี ไชยศรีหา. (2561). ที่ปัจจัยการกล่อมเกลาทางการเมืองที่ส่งผลต่อวัฒนธรรมทางการเมืองประชาธิปไตยของประชาชนในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ จังหวัดขอนแก่น. วารสารวิชาการและวิจัย มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. 8(3), 9-23.

รัตนาภรณ์ มั่นศรีจันทร์. (2559). ทัศนคติของประชาชนจังหวัดเพชรบุรีที่มีต่อการบริหารงานขององค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบุรี : ศึกษาในห้วงเวลา ปี 2599. เรียกใช้เมื่อ 20 กุมพพาพันธ์ 2567 จาก https://mis.krirk.ac.th/librarytext/PCC/2559/F_Rattanaporn_Munsrijan.pdf

วัฒนะ สุขขวัญ. (2563). ทัศนคติของผู้บริโภคที่มีต่อร้านอาหารที่ปรับตัวในช่วงวิกฤต covid-19 ในเขตกรุงเทพมหานคร. เรียกใช้เมื่อ 18 กุมพาพันธ์ 2567 จาก https://mmm.ru.ac.th/MMM/IS/twin-8/6114154060.pdf.

วุฒิพร ลิ้มวราภัส. (2562). กระบวนการมีส่วนร่วมทางการเมืองผ่านสื่อออนไลน์ กรณีศึกษา โพสต์ทูเดย์และแนวหน้า (วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ : สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์.

ศิริพงศ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา. (2560). ความเชื่อมั่นในสถาบันศาสนาและทัศนคติเกี่ยวกับการฆ่าตัวตายอย่างมีเหตุผล : ข้อค้นพบจากการสำรวจทางสังคมโดยทั่วไปในสหรัฐอเมริกา. เรียกใช้เมื่อวันที่ 26 กุมพาพันธ์ 2567. จาก http://www.cps.chula.ac.th/newcps/journalnew/myfilepdf/33-1-6-2560.pdf.

เศรษฐา ธรรมาชีพเจริญ. (2552). ทัศนคติ และพฤติกรรมของพนักงานต่อการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ ของบริษัท แบ็กซ์เตอร์ เฮลธ์แคร์ (ประเทศไทย) จำกัด. เรียกใช้เมื่อ 26 กุมพาพันธ์ 2567. จาก http://thesis.swu.ac.th/swuthesis/Man/Sedtha_T.pdf.

สุดที่รัก ฤกษ์คณะ. (2561). การทำแท้งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 305 ศึกษากรณี : เหตุให้ทำแท้งได้ หากทารกในครรภ์มารดาพิการ. วารสารนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ. 9(2), 158.

Bartz, A. E. (1999). Basic statistical concepts (4th ed.). Preentice – Hall.

Be Berry, W. D. & Feldman, S. (1985). Multiple regression in practice (Quantitative applications in the social sciences). SAGE Publications.

Ilaw. (2564). เปิดกฎหมายอาญาแก้ไขใหม่ #ทำแท้งปลอดภัย ได้ในอายุครรภ์ 12 สัปดาห์. เรียกใช้เมื่อ 30 มกราคม 2566 จาก https://www.ilaw.or.th/articles/4535

Yamane, T. (1973). Statistics : an introductory analysis. Harper & Row.

Downloads

Published

03-01-2025

How to Cite

Phattharatrakunkit, P. (2025). ทัศนคติของประชาชนที่มีต่อประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การตรวจและรับคำปรึกษาทางเลือกในการยุติการตั้งครรภ์ ตามมาตรา 305 (5) แห่งประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. 2564. วารสารบัณฑิตศึกษาปริทรรศน์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตแพร่, 10(2), 1–13. Retrieved from https://ojs.mcupr.ac.th/index.php/jgrp/article/view/201

Issue

Section

Research Articles: บทความวิจัย