การพัฒนาคู่มือการเขียนรายงานการวิจัยในชั้นเรียนสำหรับครูผู้สอนการศึกษาพิเศษ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแพร่ เขต 1
Keywords:
การพัฒนาคู่มือ, การเขียนรายงานการวิจัยในชั้นเรียน, ครูผู้สอนการศึกษาพิเศษ, กระบวนการนิเทศAbstract
บทคัดย่อ
บทความนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาคู่มือการเขียนรายงานการวิจัยในชั้นเรียน และเพื่อศึกษาผลการใช้คู่มือการเขียนรายงานการวิจัยในชั้นเรียน กลุ่มตัวอย่าง เป็นครูผู้สอนการศึกษาพิเศษ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแพร่ เขต 1 ปีการศึกษา 2567 จำนวน 28 คน ใช้วิธีเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) จากโรงเรียนที่สนใจที่สมัครเข้าร่วมโครงการ ซึ่งการวิจัยครั้งนี้ ดำเนินการ 3 ระยะ ระยะที่ 1 การสร้างและพัฒนาคู่มือการเขียนรายงานการวิจัยในชั้นเรียน (ปีการศึกษา 2566) ระยะที่ 2 การทดลองใช้และการพัฒนาคู่มือการเขียนรายงานการวิจัยในชั้นเรียน (ปีการศึกษา 2567) ระยะที่ 3 การขยายผลการใช้คู่มือการเขียนรายงานการวิจัยในชั้นเรียน (ปีการศึกษา 2567) โดยนำกระบวนการนิเทศการศึกษามาปรับใช้ 6 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นที่ 1 การศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหา ความต้องการและกำหนดจุดพัฒนา ขั้นที่ 2 การวางแผนการพัฒนา/การวางแผนการนิเทศ ขั้นที่ 3 การสร้างสื่อและเครื่องมือนิเทศ ขั้นที่ 4 การปฏิบัติการนิเทศ ขั้นที่ 5 การติดตามประเมินผล และขั้นที่ 6 การสรุปรายงานและเผยแพร่ผลงาน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) คู่มือการเขียนรายงานการวิจัยในชั้นเรียน 2) แบบทดสอบการเขียนรายงานการวิจัยในชั้นเรียน 3) แบบสอบถามความคิดเห็นต่อคู่มือ 4) แบบประเมินคุณภาพรายงานวิจัยในชั้นเรียน
และ 5) แบบสอบถามความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าที (t-test) และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) และพรรณาความ
ผลการวิจัยพบว่า คู่มือการเขียนรายงานการวิจัยในชั้นเรียน มีประสิทธิภาพ E1/E2 = 84.96/84.76 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ประสิทธิภาพ E1/E2 = 80/80 ที่กำหนดไว้ ความรู้ด้านการเขียนรายงานการวิจัยในชั้นเรียน หลังได้รับการนิเทศและใช้คู่มือการเขียนรายงานการวิจัยในชั้นเรียนของครูผู้สอนการศึกษาพิเศษ สูงกว่าก่อนได้รับการนิเทศและใช้คู่มือการเขียนรายงานการวิจัยในชั้นเรียน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .01 รายงานการวิจัยในชั้นเรียนของครูผู้สอนการศึกษาพิเศษ ที่ได้รับการนิเทศและใช้คู่มือการเขียนรายงานการวิจัยในชั้นเรียน โดยรวมในระดับดีมาก ความพึงพอใจของครูผู้สอนการศึกษาพิเศษที่มีต่อการใช้คู่มือการเขียนรายงานการวิจัยในชั้นเรียนโดยรวมในระดับมากที่สุด
Abstract
The objectives of this study were to develop a classroom research report writing manual and to examine its results. The 28 participants, selected by purposive sampling method, were special education teachers from schools under the jurisdiction of Phrae Primary Educational Service Area Office, Area 1 in the academic year 2024. This research was conducted in 3 phases: Phase 1: creation and development of classroom research report writing manual (academic year 2023); Phase 2: testing and development (academic year 2024); and Phase 3: extension of findings (academic year 2024). The educational supervision processes were employed in 6 steps: Step 1: studying the current condition, problems, and needs, and determining development points; Step 2: planning supervision; Step 3: creating media and supervisory tools; Step 4: operational supervision; Step 5: monitoring and evaluation; and Step 6: summarizing and reporting results. The research instruments consisted of a classroom research report writing manual, a test, a questionnaire for opinions on the manual, a classroom research report evaluation form, and a satisfaction questionnaire. Quantitative data were analyzed using percentages, means, standard deviations, and t-tests while qualitative data were analyzed using content and descriptive analyzes.
The findings showed that the efficiency of the developed manual was 84.96/84.76, which was higher than 80/80 standardized criteria. After receiving supervision and using the developed manual, participants' post-test scores in writing classroom research were significantly higher than the pre-test scores at a significant level of 0.01. Overall, classroom research reports of special education teachers after supervision and using the developed manual were at an excellent level. Their satisfaction with the use of the developed manual was at the highest level.
References
กนิษฐา เชาว์วัฒนกุล. (2553). การพัฒนารูปแบบการดูแลให้คำปรึกษาแนะนำเพื่อส่งเสริมสมรรถนะการสอน และการทำวิจัยในชั้นเรียนของนิสิตฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูสาขาวิชาการสอนคณิตศาสตร์ (วิทยานิพนธ์ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต). กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยศิลปากร.
กระทรวงศึกษาธิการ. (2546). การศึกษาความต้องการเกี่ยวกับการให้คำปรึกษาการวิจัยสำหรับครูและ บุคลากรทางการศึกษา. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
เกียรติสุดา ศรีสุข. (2552). ระเบียบวิธีวิจัย. พิมพ์ครั้งที่ 3. เชียงใหม่ : โรงพิมพ์ครองช่างพริ้นติ้ง.
จันทรานี สงวนนาม. (2551). ทฤษฎีและแนวปฏิบัติในการบริหารสถานศึกษา. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์บุ๊คพอยท์.
ชาญยุทธ มั่งคั่ง. (2553). การสังเคราะห์ผลงานทางวิชาการเพื่อเลื่อนวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ โดยวิธีวิเคราะห์อภิมาน (วิทยานิพนธ์ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต). มหาสารคาม : มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
ชัยยงค์ พรหมวงศ์. (2520). ระบบสื่อการสอน. กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
นงลักษณ์ นุชอุดม. (2555). ปัญหาการจัดทำผลงานทางวิชาการของข้าราชการครูในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสงคราม (วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต). ราชบุรี : มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง.
นิภาพร กุลสมบูรณ์. (2552). การวิจัยและพัฒนากระบวนการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียน เพื่อส่งเสริมวินัย ของครูและการเรียนรู้ของโรงเรียน (วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต). กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ปรีชา ช้างขวัญยืน. (2552). เทคนิคการเขียนและผลิตตำรา. พิมพ์ครั้งที่ 6. กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ปุญชรัศมิ์ ตาคำ. (2552). การพัฒนาครูด้านการจัดทำวิจัยในชั้นเรียนโรงเรียนพานพสกสวัสดิ์ อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย (วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต). เชียงราย: มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย.
บุญธรรม กิจปรีดาบริสุทธิ์. (2553). เทคนิคการสร้างเครื่องมือรวบรวมข้อมูลสำหรับการวิจัย. พิมพ์ครั้งที่ 7. กรุงเทพฯ : ศรีอนันต์การพิมพ์.
พิมวล คันศิลป์. (2552). การพัฒนาครูด้านการทำวิจัยในชั้นเรียน โรงเรียนดงน้อยวิทยา อำเภอสหัสขันธ์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากาฬสินธุ์ เขต 1 (วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต). มหาสารคาม : มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.
มาเรียม นิลพันธุ์. (2555). วิธีวิจัยทางการศึกษา. พิมพ์ครั้งที่ 7. ภาควิชาหลักสูตรและวิธีสอน คณะศึกษาศาสตร์ : มหาวิทยาลัยศิลปากร.
ยุพิน ยืนยง. (2553). การพัฒนารูปแบบการนิเทศแบบหลากหลายวิธีการเพื่อส่งเสริมสมรรถภาพการวิจัยในชั้นเรียนของครูเขตการศึกษา 5 อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ (วิทยานิพนธ์ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต). กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยศิลปากร.
ยุทธพงษ์ อายุสุข. (2550). การประเมินความต้องการจำเป็นเพื่อพัฒนาการทำวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนของครู. วารสารวิธีวิทยาการวิจัย. 20(3), 464-482.
เยาวดี รางชัยกุล วิบูลย์ศรี. (2554). การวัดผลและการสร้างแบบสอบผลสัมฤทธิ์. พิมพ์ครั้งที่ 10. กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
รับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน), สำนักงาน. (2553). คู่มือการประเมินคุณภาพภายนอกรอบสาม (พ.ศ. 2554-2558) ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ฉบับสถานศึกษา พ.ศ. 2554. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์แมทซ์พอยท์.
ราชบัณฑิตยสถาน. (2556). พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554. กรุงเทพฯ : นานมีบุคส์ พับลิเคชั่นส์.
วาโร เพ็งสวัสดิ์. (2551). วิธีวิทยาการวิจัย. กรุงเทพฯ : สุวีริยาสาส์น.
สมโภชน์ หลักฐาน. (2550). ผลการสร้างและการใช้คู่มือเรียนรู้และปฏิบัติการการวิจัยในชั้นเรียน : พลศึกษา เพื่อพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนรู้พลศึกษาครูผู้สอนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาศรีสะเกษ เขต 1 (รายงานการวิจัย). ศรีสะเกษ : กลุ่มนิเทศติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาศรีสะเกษ เขต 1.
สายชล แซ่จิว. (2550). ปัญหาการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูในโรงเรียน สังกัดเทศบาลเมืองศรีราชา จังหวัดชลบุรี (วิทยานิพนธ์ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต). ชลบุรี : มหาวิทยาลัยบูรพา.
สุมาลี สังข์ศรี. (2553). “การเขียนคู่มือ” การเขียนผลงานวิชาการและบทความ. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ภาพพิมพ์.
อัจฉรา สระวาสี. (2555). การพัฒนาวิชาชีพโดยใช้กระบวนการวิจัย. วารสารข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา. 2(1), 30.
อาทิวรรณ โชติพฤกษ์. (2553). ก้าวสู่ความเป็นนักวิจัยมืออาชีพ. กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
Kenneth, M. (2006). Developing teacher-researchers in high school : A case Study of planned in fermentation. Pennsylvania : University of Pennsylvania.
Mingucci, M.M. (2001).“Action Research as ESL Teacher Professional Development”. Dissertation Abstracts International. 63(2), 229-A.
Downloads
Published
How to Cite
Issue
Section
License
Copyright (c) 2025 วารสารบัณฑิตศึกษาปริทรรศน์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตแพร่

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.